28 มี.ค. 2558

Yamanote loop line 29 สถานี : ตอนที่ 3 (จบแบบเหนื่อยๆ)

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ในที่สุดก็เป็นตอนจบของ Yamanote line นั่งรถไฟ 29 สถานีแล้ว ผู้เขียนออกเดินทางเมื่อเดือนตุลาคม แต่ก็เขียนมาเรื่อยๆ จนถึงเดือนมีนาคมครับ ก่อนอื่น...
 Yamanote line ได้รถใหม่แล้ว!!!!
รถไฟสาย Yamanote line ซึ่งเป็นหน้าตารับแขกของโตเกียวกำลังจะเปลี่ยนไป E235 เป็นรถรุ่นใหม่ปี 2015 โดยจะนำมาเปลี่ยนแทนที่รถเก่า E231-500 ...รถใหม่จะมีลวดลายที่ประตูแทนแถบข้างรถ เพื่อให้เข้ากับประตูชานชาลา โดยเต็มไปด้วยเทคโนโลยีโน่นนี่นั่นเต็มไปหมด แต่แน่นอนว่ารถใหม่จะให้ความรู้สึกสบายขึ้นกว่ารถเก่าไม่ว่าจะเป็นทั้งที่สำหรับรถเข็นทุกตู้โดยสาร ไม่มีโฆษณากระดาษบนเพดานในห้องโดยสาร(เปลี่ยนเป็นจอทีวี) พร้อมรองรับ Tokyo 2020
...แต่ว่า...จริงๆ แล้วรถ Yamanote line ทีใช้อยู่ปัจจุบันก็เพียงแค่รุ่นปี 2002-2005 เท่ากับว่าอายุการใช้งานเพียง 10 ปีเท่านั้นเอง... ถึง 2020 ผมว่ามันก็ยังโอเคอยู่นะ... (หลายคนอาจจะมองๆ ว่า บ้านเราเปลี่ยนทีละ 50 ปี.. จริงๆ ญี่ปุ่นก็ยังมีรถไฟที่เกือบๆ จะ 40 ปี หลงเหลือวิ่งใช้งานอยู่ .. ส่วนใหญ่เป็นพวกเอกชน)
   เข้าเรื่องๆ เราจะมาพูดถึงการเดินทางในช่วงสุดท้าย ถ้าอ่านไม่รู้เรื่อง
กลับไปเริ่มที่ ตอนที่ 1 แล้วตามด้วย ตอนที่ 2 นะครับ
   ตอนใหม่ (จะวนอีกรอบ) น่าจะทำในช่วงเดือนพฤษภาคม 2015 ที่จะถึงนี้ครับ

   นั่งรถไฟรอบเมืองมาแล้ว 20 สถานี เหลืออีกเพียง 9 สถานี ซึ่งถือว่ามีสถานีใหญ่อยู่ด้วยได้แก่ Shibuya, Shinjuku, Ikebukuro นั่นเอง.. แต่ผ่านมา 20 สถานี ก็ใช้เวลาเกือบๆ 9 ชั่วโมงเข้าไปแล้วครับ ไม่เป็นไร ผมยังมีพลังอยู่ ...จริงๆ แล้วเนี่ย รถไฟ Yamanote line ที่วิ่งรอบเมืองเนี่ยครับ บางขบวนวิ่งวันละเกือบๆ 20 รอบ ไม่ได้ครับ เราต้องเดินต่อไป...

เรามาต่อกันที่ Ebisu ครับ สถานีค่อนข้างใหญ่ พร้อมกับมี Beer garden ด้วย...แต่ผู้เขียนขอข้ามเรื่อง 20+ ไปก่อนครับ...(ในญี่ปุ่น เราสามารถดื่มสุราและสูบบุหรี่ได้เมื่ออายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไปครับ)  ครั้งหน้าจะเก็บรายละเอียดมาให้ชมกัน จะเห็นว่าเมื่อเราไปถึงก็มืดเสียแล้ว

ต่อมาเรียงลำดับแปลกๆ นิดนึงครับ เราจะมาที่ Harajuku ก่อน จากนั้นจึงเดินกลับไป Shibuya ...กลายเป็นว่า Harajuku จะครึกครื้นไปด้วยวัยรุ่นในตอนบ่ายมากกว่ามั๊ง?
(Harajuku ขออนุญาตไม่บรรยายสรรพคุณอะไรมากครับ.. 555)

มีทางเดินจาก Harajuku ไป Shibuya เป็นทางเดินลงเนิน ถ้าใครอยากออกกำลังกายนะครับ ..ถ้าเหนื่อยก็นั่งรถไฟกลับได้ครับ ※ แนะนำ : ฮาราจุกุมาก่อนชิบุย่าก็สวยดี ...หรือมาพร้อมกันในตอนบ่ายๆ ครั้งหน้าเราจะเปลี่ยนแผนการเดินรถครับ..

มาต่อกันที่ชิบุย่าครับ ค่อนข้างเป็นถิ่นแสงสีเสียงมากทีเดียว ส่วนในตอนกลางวันก็สวยเช่นกันนะครับ ถ้าพูดถึงชิบุย่า หลายๆ คนคงนึกถึง...


 ต่อกันด้วยสถานีที่ 24 ของการเดินทาง Yoyogi ครับ หลายๆ คนจะนึกไปถึง Yoyogi park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ..จริงๆ แล้วมันใหญ่ เดินมาจากทาง Harajuku ก็ได้ครับ ตัวสถานี Yoyogi ของ JR จะค่อนไปทางชินจุกุมากกว่า ครั้งหน้าเราจะเดินจาก Yoyogi ไป Shinjuku กันครับ เป็นแหล่งแสงสีเล็กๆ กับตึกสูงของชินจุกุฝั่งใต้
   สถานี 25 สถานีรถไฟที่วุ่นวายที่สุดในโลก ต้องยกให้ Shinjuku ครับ ส่วนใหญ่พวกรถไฟสายที่มาจากชานเมืองจะมากระจุกตัวกันอยู่แถวนี้เยอะมาก แน่นอน ก็ต้องพร้อมไปด้วยแหล่งแสงสีเสียงมากมายสำหรับมนุษย์เงินเดือนแวะพักก่อนกลับบ้านครับ ถามว่า...มีแหล่งอะไรให้ท่องเที่ยวไหม? จริงๆ มันก็ไม่มีหรอก แต่มันก็มีที่เดิน ชอปปิ้ง อยู่พอสมควรครับ
... แล้วก็พักรับประทานอาหารเย็นที่นี่เล็กน้อย อีกเพียง 4 สถานีก็ถึงปลายทางของเราแล้วครับ
เข้าสู่สถานีถัดไป Shin-Okubo ครับ (ภาพถ่ายหลังจากเที่ยว เพราะตอนนั้นเหนื่อยมากจนลืมถ่าย.. เลยไปวันหลังอีกรอบ..) ..บางคนอาจจะไม่คุ้นครับ บอกให้ละกันว่าเป็นเมืองเกาหลีครับ...มีของเกาหลีขายเต็มไปหมด สำหรับผู้โดยสารที่นั่งเครื่องบินเลยเกาหลีมาลงญี่ปุ่น 555 (อาหารไทยก็มี.. เป็นย่านนานาชาติพอสมควรครับแหม่..)
------
ถัดมาที่ Takadanobaba ครับ เป็นสถานีเทอร์มินัลขนาดกลางๆ ที่มีคนเปลี่ยนรถกลับบ้านเยอะทีเดียว ก็จะมีร้านขายของ ร้านอาหารพอสมควรครับ บางทีเพื่อนผมก็ชอบชวนมากินเนื้อย่างถูกๆ แถวนี้
Takadanobaba : Seibu Shinjuku line transfer
 จริงๆ ใกล้เคียงกับสถานี Takadanobaba มีมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ อย่าง Waseda อยู่ครับ ว่ากันว่าเป็นแหล่งเดินเที่ยวของพวกนักศึกษา (คราวหน้าจะสำรวจดูครับ)
ตามมาด้วยสถานีก่อนจบ ที่ Mejiro สถานีนี้เล็ก ไม่ค่อยมีอะไรมากครับ ประกอบกับผู้เขียนเองเดินทางมาถึงก็เกือบสองทุ่มแล้ว .. คราวหน้าเราจึงตั้งใจจะเริ่มจากสถานีนี้แต่เช้าครับ
...
Ikebukuro สถานีสุดท้ายของเรา...
ถึงจุดนี้ผมก็บอกตามตรงว่าผมโคตรเหนื่อยเลยในการเดินทาง 11 ชั่วโมง ขึ้นๆ ลงๆ รถไฟไปสามสิบครั้ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะสามารถเดินทางให้ครบรอบได้ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ ผมเลยกลับบ้านพร้อมซื้อของกินกลับจากอิเคะบุคุโระเล็กๆ น้อย เป็นหอยเชลล์อบชีสลดราคา ..แต่เมื่อกินก็พบว่า... เอ๊ะ...มันฝรั่ง!? (ตาลายหมดแล้ว 555)
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านโพสต์นี้มาโดยตลอดครับ
WORKETA

----
สุดท้ายก็ฝากด้วยภาพดอกซากุระที่สวน Ueno park หน่อยละกัน...
2015 WORKETA STUDiO



มีข้อสงสัยถาม worketadirect@gmail.com ได้ครับ (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น