<-- เมื่อปี 2013
-----------------
ก่อนอื่น ความคืบหน้าในด้านรถไฟของไทย - ญี่ปุ่น ..หลักๆ ครับ
ไทย : รถจักรรุ่นใหม่จากจีนที่กำลังจะมาในไม่ช้านี้ ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน จะใช้ในการลากรถสินค้าหนัก ...หลายคนก็สงสัยว่าลากรถโดยสารได้ไหม คำตอบคือเส้นทางรถโดยสารบางเส้นยังไม่แข็งแรง และรถจักรมีน้ำหนักมาก จึงยังลากไม่ได้ ให้วิ่งในทางรถสินค้าซึ่งเป็นทางที่รองรับรถจักรหนักได้ครับ
ไทย : รถไฟฟ้าสายสีม่วงก็ได้เผยรถ Mock-up (เทียบกับภาพยนตร์ก็คือ Trailer ครับ) ผมเลยลองเพ้นท์หน้าตาออกมาคงจะประมาณนี้ครับ (ไม่ใช่ของจริง ...ว่างๆ ไปส่องโรงงานได้ไหมเนี่ย...)
ภาพต้นฉบับ : East Japan Railway company E233-1000 ถ่ายที่อากิฮาบาร่า
ผู้เขียนเชื่อว่าเป็นการเอาแบบเดิมของ E233 รุ่นปี 2007 มาเป็นพื้นครับ แล้วปรับเปลี่ยนเล็กน้อย
ใจจริงอยากได้หน้าจอแบบสองจอเหนือประตูครับ...
ญี่ปุ่น : ญี่ปุ่นก็มีเทคโนโลยีเจ๋งๆ เกี่ยวกับรถไฟครับ เป็นรถไฟพลังงานทางเลือกใหม่ กับพลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่ Accumulator รุ่น EV-E301 ครับ รถไฟจะวิ่งบนสาย Karasuyama ซึ่งมีทั้งรางไฟฟ้าและไม่มีไฟฟ้า เมื่อไม่มีรางไฟฟ้าก็จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่สะสมไว้ ถึงปลายทางก็ชาร์จไฟกลับอีกรอบครับ
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/f/fc/EV-E301_interior_monitor_no2.JPG
นอกจากนี้ญี่ปุ่นก็กำลังพัฒนาหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะการทำรถไฟชินคันเซ็นหรือรถไฟความเร็วสูงเส้นใหม่ๆ ซึ่งประโยชน์ของมันคือการลดระยะเวลาในการเดินทางครับ
ชินคันเซ็นเส้นใหม่(Hokuriku)นั้นจริงๆ แล้วก็วิ่งความเร็วสูงสุดกันได้เพียงแค่ 260 กิโลเมตร/ชั่วโมงครับ ก็เพราะสภาพทางที่เป็นภูเขาเยอะครับ
-----------------------------
กว่าจะเข้าเรื่องของสตูดิโอของเรากันบ้างครับ ในปี 2014 สตูดิโอของเรามีการปรับปรุงอะไรกันบ้างนะ???
เราใช้หัวข้อ Inspire ครับ คือเราเปิดๆ ดูวิดิโอรถไฟเก่าๆ แล้วเราจะทำใหม่ด้วยวิดิโอจากกล้อง DSLR ครับ เราก็เลยวาง Project วิดิโอรถไฟขนาดใหญ่ไว้ตลอดปีครับ เช่น รวมรถไฟด่วนพิเศษ เป็นต้น
บล็อกต่อเนื่องจากชุดบทความก่อนๆ ครับ ไปสักระยะหนึ่งทางเว็บไซต์ได้เริ่มทดลองการใช้ภาพฟอร์แมต .gif ที่สามารถเคลื่อนไหวได้ครับ
คอมสตูดิโอของเรามีปัญหาในเดือนเมษายน ส่งผลให้ Hard drive พังครับ และข้อมูลของเราก็หายเกือบเกลี้ยง โดยเฉพาะต้นฉบับไฟล์ต่างๆ ซึ่งไม่สามารถกู้ข้อมูลได้เลย โชคดีที่เครื่องเสียที่ไทยจึงสามารถนำไปซ่อมได้ ถ้าเสียที่ญี่ปุ่นนี่คงไม่สนุกเลย... --> ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือวิดิโอรถไฟทุกตัวถูกยกเลิกครับ เพราะไฟล์วิดิโอหายเกลี้ยง! ส่วนงานต่างๆ ก็มีการชะงักครับ ยังเหลือภาพถ่ายที่อยู่ใน External และไฟล์บางอย่างที่ยังสามารถกู้กลับมาได้จากใน Google account ครับ แต่ที่สำคัญคือไม่เหลือต้นฉบับครับ
เรายังคงเริ่มใหม่ได้ครับ ต่อมาเราก็ได้ Inspire จากการค้นหาสถานีรถไฟแปลกๆ ซึ่งเราก็เจอ และเราก็เกิดไอเดียว่าเราจะทำโปรเจกต์วิดิโอรถไฟที่ชื่อว่า "STAYTION" ครับ คือการอยู่ที่สถานีนั้น แล้วก็ถ่ายวิดิโอรถไฟที่นั่น เริ่มปล่อยวิดิโอแรกออกมาเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ปัจจุบัน (ปลายปี 2014) มีวิดิโอใหม่ที่อัพโหลดไปแล้ว(วิดิโอ STAYTION และวิดิโออื่นๆ)ทั้งหมด 23 รายการ และพร้อมเดินหน้าทำต่อไปอีกเรื่อยๆ หลายรายการ
ส่งผลให้เราเริ่มจัดระบบตารางวิดิโอใหม่ ว่าจะมีวิดิโอใหม่ในวันไหน ความคืบหน้าของวิดิโอใหม่ที่กำลังจะออกมาให้ได้รับชมต่างๆ ครับ
เรามีอีเมลติดต่อสอบถามโดยตรงที่ worketadirect@gmail.com ซึ่งขอยืนยันว่านี่เป็นอีเมลที่ใช้งานได้จริงครับ ทว่า...ไม่มีใครติดต่อมาเลย...
WORKETA STUDiO เพิ่มความหลากหลายของโพสตืมากขึ้น รวมถึงมีการจัดการให้เว็บไซต์มีความเสถียรภาพมากขึ้นครับ นับว่าปี 2014 เป็นปีที่เราผ่านจุดไม่คาดฝันมา แต่เราก็สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้อย่างไม่น่าเชื่อ นับว่าเป็นปีที่เราไปได้ตามเป้า Inspire ครับ
--------------------------
ทางเราก็รู้สึกดีที่ได้กลับมาปีใหม่ที่ไทยมากครับ สำหรับใครที่อยากไปปีใหม่ญี่ปุ่นก็ขอบอกไว้เลยละกันว่าน่าเบื่อและไม่มีอะไรครับ จุดพลูเคาท์ดาวน์ก็เงียบเหงาครับ
สุดท้ายนี้ ...ก็อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้นั่งทำงานที่สตูดิโอพระนครครับ จริงๆ มันก็คือโต๊ะทำงานตั้งแต่แรกของผมนั่นแหละ ต่อมาพอผมเริ่มเขียนบล็อกผมก็เรียกมันว่า "สตูดิโอ" จริงๆ มันก็คือคอมพิวเตอร์ตัวนึงบนโต๊ะทำงานครับ
สตูดิโอที่มีเพียงแค่คอมพิวเตอร์ AMD Quad core กับโปรแกรมง่ายๆ บางโปรแกรมครับ คอมจะเสียบสายชาร์จเรื่อยๆ (โดยเฉพาะช่วงหลังๆ ที่คอมไม่ดี) โดยใช้ Wireless mouse หรือบางทีก็ wire mouse แต่สุดท้ายผมก็ชอบ Wireless mouse ของ logitech มากที่สุดครับ
โต๊ะทำงานสามารถจัดวางให้เขียนหนังสือได้ และเล่นคอมได้ครับ บางครั้งก็ทำพร้อมกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลย... กองชั้นหนังสือนั้นสมัยก่อนมีหนังสือเต็มไปหมดครับ ปัจจุบันจากการย้ายไปญี่ปุ่นก็น้อยลง
ที่สำคัญคือโคมไฟตัวเก่าครับ ปกติจะใช้แขวนหูฟังด้วยครับ เป็นสิ่งที่ให้แสงสว่างแก่เรามาโดยตลอด
ต่อมาก็จะเป็นกล้องที่ใช้ประจำครับ บางครั้งอาจมีการยืมกล้องคนอื่นใช้บ้าง แต่โดยรวม กล้องที่ใช้จริงๆ ก็คือ
Canon Ixus (IXY) รุ่นปี 2007 ครับ ก็เป็นของที่ได้รับต่อมาครับ เอาจริงๆ ก็ใช้ดีพอสมควร แม้จะตกกระแทกเสียหายหลายครั้ง แต่ก็ทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ.. (ภาพบนถ่ายเมื่อเดือนเมษายน 2556 ซึ่งยังใช้งานได้อย่างดี)
ทางเราพบว่ากล้องไม่สามารถถ่ายภาพได้ตั้งแต่ช่วงมีนาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อกลับมาอีกครั้ง มันก็กลับมาใช้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ... เราจะทำการถ่ายภาพและวิดิโอในภายหลังให้ผู้อ่านดูครับว่าสภาพบุบเละแบบนี้ จะบันทึกอะไรได้บ้าง...
ปัจจุบันสตูดิโอใช้กล้อง EOS 650D พร้อมเลนส์ 18-135 และถ่ายภาพและวิดิโอสวยๆ มากมายให้ท่านได้ชมทั้งทาง Youtube และ 500px ครับ ต่อไปในเว็บไซต์ของเราก็มีครับ
สมัยก่อนสตูดิโอใช้เทคนิคการถ่่ายรูป Model โดยกระดาษ A4 ธรรมดาวางทั้งสองฝาของโน๊ตบุ๊คครับ ปัจจุบันสตูดิโอโตเกียวใช้แผ่นกระดานพลาสติกขนาดใหญ่ 2 แผ่น แต่ก็ยังวางบนโน๊ตบุ๊ค และบางทีก็อาจมีรอยต่อหรือความแตกต่างของสีขาวบ้างเพราะประกบไม่เนียนเหมือน A4 แต่มันก็สะดวกดีครับ
จริงๆ แล้วสตูดิโอพระนครจะต้องมีพัดลมข้างๆ ครับ สภาพปัจจุบันไม่มีแล้ว และสตูดิโอโตเกียวก็ไม่มีพัดลมครับ การทำงานสตูดิโอญี่ปุ่นในหน้าร้อนมีแต่เครื่องปรับอากาศ ผู้เขียนเองรู้สึกชอบพัดลมมากกว่า
และสุดท้ายสตูดิโอนี้ก็เป็นสตูดิโอพื้นฐานง่ายที่สุด มีเพียงแค่ โคมไฟ กับคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงานริมหน้าต่าง หันหน้าออกถนนซึ่งมีเสียงรถวิ่งอยู่เรื่อยๆ ทีเดียวครับ
ปี 2014 ก็ผ่านไป และปี 2015 ก็จะเป็นปีที่เรียกว่าปี "ใหม่" นั่นเองครับ เราก็คงจะมีอะไรใหม่ๆ ให้ผู้อ่านเรื่อยๆ ในคำขวัญของเรา Always NEW creations ครับ
WORKETA
31 ธ.ค. 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น