สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน
จากที่เขียนบล็อกสปอตนี้มาเป็นเวลา 10 ปี ผมเองก็อยากย้อนกลับไปเหมือนกันว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วเราทำอะไรอยู่ไหนกันบ้าง...
ก่อนอื่น นอกเรื่องเล็กน้อยครับ ตอนนี้ผมได้มีโอกาสกลับมาพักผ่อนที่ไทยในรอบเกือบๆ สามปีครับ ตอนนั่งรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์เข้าเมืองเลยถ่ายวิดิโอตอนรถไฟปิดประตู ตั้งชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "ถ้าโดนประตูรถไฟนี้หนีบก็จบเห่แน่ๆ " ภายใน 24 ชั่วโมงมียอดวิวทะลุ 36000 วิวอย่างไม่น่าเชื่อเลย ถถถถ (ส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่นครับ ๕๕๕)
ドアに挟まれると即終了な電車 (バンコク空港線)
กลับเข้าเรื่องกันต่อ
เมื่อ 10 ปีก่อน ผมเป็นคนที่ชอบการตัดต่อภาพ ชอบมีม (meme) ชอบอะไรฮาๆ ในช่วงแรกๆ ก็จะเป็นโพสต์มีมฮาๆ ไร้สาระ แล้วจึงนำไปสู่การสอนเทคนิคการตัดต่อ โดยผสมผสานกันระหว่าง MS Paint / Powerpoint ซึ่งเป็นโปรแกรมสามัญประจำบ้านที่ไม่ต้องลงทุน
มีมในสมัยก่อนก็มีไม่มากหรอกครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นภาพวาดลายเส้นหน้าฮา ถ้าใครจะได้ก็จะเป็นหน้า derp (หน้าธรรมดา) บ้าง หน้าโกรธ (FFFUUU meme) หน้าที่วาดมาจากคนจริงอย่าง Troll face หรือหน้าโอบาม่า มีมส่วนใหญ่ก็จะเป็นมีมช่องเดียวหรือสองช่องสั้นๆ
ส่วนมีมในปัจจุบันนั้นเชื่อว่าทุกคนก็คงทราบกันดีครับ
ไม่ว่าจะเป็นมีมที่มาจากมิวสิกวิดิโออย่าง Drake - Hotline bling ที่มีท่าเต้นฮาๆ และก็เกิดมาเป็นมีมหันหน้าหนี หันหน้าชอบ ขึ้นมาแบบนี้ หรืออาจจะเป็นมีมสมองเล็ก สมองใหญ่ (Expanding brain meme) และก็มีอีกหลายๆ มีมที่เป็นเท็มเพลตคล้ายๆ กัน
แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นมีมที่ใช้เทมเพลตตายตัวซ้ำๆ กันไป เนื้อหาหรือข้อความอาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรายวัน และทุกวันนี้เราก็สามารถใช้เว็บพวก meme template สำเร็จรูปได้ในการสร้างมีมขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องมีโปรแกรมตัดต่อภาพอีกต่อไปก็ได้
ในขณะเดียวกัน ในเรื่องการตัดต่อก็มีการพัฒนาตัวเองของมันไปอีกขึ้น โดยเฉพาะมีมนอกเหนือจากรูปภาพ อันได้แก่ เสียงเพลง และวิดิโอ
เพลงที่เป็นมีมนั้นก็จะอาจจะมีทั้งเพลงที่เป็นฮิตในช่วงนั้นๆ หรือบางเพลงอาจจะเป็นเพลงที่เก่า แต่มีคนนำมาขุดขึ้นมาทำเป็นมีมที่โด่งดังในชั่วข้ามคืน (viral) พูดถึงเมื่อ 10 ปีที่แล้วเรายังคงจำได้แม่นที่ทุกคนออกมาเต้นกังนัมสไตล์ แต่พอมาดูในเวลาปัจจุบันก็ต้องตกใจว่านั่นมันเป็นมีมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว (หน้าเศร้าๆ) ส่วนเพลงเก่าที่อยู่ดีๆ ก็กลับมาฮิตก็มีหลายแบบ แต่ที่น่าสนใจก็คือเพลงป๊อปในยุค 80s หรือโดยเฉพาะ Japanese Pop ที่อยู่ดีๆ กลับมาฮิตและถูกนำมาทำเป็น Remix หรือมาเล่นให้ช้าลงเป็นเพลง Vaporwave ในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 2010s
ต่อมา การตัดต่อวิดิโอมีมที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลังนั้น ผมคิดว่าเป็นส่วนที่มาจากโปรแกรมตัดต่อวิดิโอที่มีฟังก์ชั่นสูงๆ สามารถเข้าถึงคนทั่วไปได้อย่างง่ายขึ้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีมพวกนี้เติบโตไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้รวมไปถึงการมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ อย่าง TikTok ที่ทำให้เราสามารถตัดต่อวิดิโอตามเทมเพลต และเอาเข้าจังหวะเพลงได้ นี่ทำให้ใครๆ ก็ได้สามารถที่เป็น Creator ได้เพียงปลายนิ้ว และนี่ก็ทำให้มีมสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ช่องยูทูปที่ตัดต่อมีมฮาๆ ที่ผมชอบดู
และอื่นๆ ที่อาจไม่ได้กล่าวถึง
แต่ meme พวกนี้จะมีข้อเสียเล็กๆ คือ Template มันจะซ้ำๆ กันไปมา คนโน้นก็ทำ คนนี้ก็ทำ หรือเพจโน้นเพจนี้ก็เอามาแชร์ซ้ำๆ กันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน บางอันซ้ำๆ แต่ก็ทำให้ฮาได้เรื่อยๆ แต่บางอันก็ซ้ำจนเบื่อ
กับข้อเสียอีกอย่างคือ meme พวกนี้มีอายุสั้น เพราะสักพักก็จะมี meme ตัวใหม่ออกมาให้ขำกันได้อีกสักหนึ่งสัปดาห์ ว่าแต่ meme ของเดือนที่แล้วเนี่ยเขายังฮิตกันอยู่ไหมนะ...
จะว่าไป อีกข้อเสียอย่างหนึ่งของมีมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเมื่อเทียบกับสมัยก่อนคือ ความตั้งใจที่จะให้เกิดมีม อย่างเช่นในภาพยนตร์ต่างๆ จะเห็นได้ชัดว่าบางฉากของภาพยนตร์ในปัจจุบันนั้น "จงใจ" ทำให้ฉากนั้นเป็นมีมขึ้นมา...
ผมเองก็ไม่ได้ทำพวก contents แบบเก่าๆ แล้ว แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังเป็นคนที่ชื่นชอบมีม ชื่นชอบการทำให้คนอื่นหัวเราะบ้าง เป็นการพักสมองจากเรื่องเครียดๆ ในแต่ละวัน... (หรือกูพักนานเกินไปวะ...)
สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากวิดิโอของ FlyingKitty - Good Meme (ft. Cr1tikal) ทีมอัพกับเพลงรีมิกซ์จาก Party in Backyard ซึ่งอธิบายความเป็นมาของมีมในช่วงสิบปีนี้ไว้ในเพลงสั้นๆ เพียง 2 นาทีครึ่งไว้อย่างดีครับ เผื่อใครจะกลับมาระลึกความหลังกับวันเก่าๆ
WORKETA
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น