23 ก.ย. 2567

รถไฟมือสองที่ใช้หมุนเวียนภายในประเทศญี่ปุ่น

   สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ วันนี้จะมาเล่าเรื่องรถไฟมือสองครับ

   หลายๆ ท่านคงจะได้ยินข่าวช่วงนี้เรื่อยๆ เกี่ยวกับรถไฟมือสองของไทยที่ได้จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจริงๆ แล้วการหมุนเวียนรถไฟมือสอง เกิดขึ้นอยู่ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าญี่ปุ่นจะให้รถไฟมือสองแก่หลายๆ ประเทศในภูมิภาค ASEAN หรือนอกจากญี่ปุ่นเองก็มีอย่างเช่น รถไฟ Intercity 125 ของอังกฤษเอาไปวิ่งต่อมือสองในอเมริกาใต้หรือแอฟริกา หรือการโอนย้ายรถไฟความเร็วสูงข้ามประเทศที่เกิดอยู่บ่อยๆ ในโซนยุโรป แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีการหมุนเวียนรถไฟมือสองอยู่ตลอดเวลา วันนี้จึงขอรวบรวมการหมุนเวียนรถไฟมือสองที่เกิดขึ้นภายในประเทศญี่ปุ่นให้อ่านกันครับ

   ก่อนอื่น รถไฟญี่ปุ่นบางบริษัทมีโครงข่ายครอบคลุมหลายจังหวัด บางครั้งรถไฟก็จะมีการถูกโอนย้ายเส้นทางหรือจังหวัดที่ประจำการอยู่ แต่ในกรณีที่ยังคงอยู่ในบริษัทเดียวกันนั้น ขอถือว่าไม่เป็นรถไฟมือสองละกันครับ รถไฟมือสองในที่นี้จะหมายถึงรถไฟที่ถูกย้ายจากบริษัทหนึ่งไปยังอีกบริษัทหนึ่ง


"รถไฟชนบท" (Chiho Tetsudo)

Kumamoto Electric Railway สถานี Kita-Kumamoto
ซึ่งรถไฟเกือบทั้งหมดเป็นรถไฟเก่าจากรถไฟฟ้าใต้ดินในโตเกียว

   ในญี่ปุ่นมีรถไฟทุกจังหวัด แทบทุกจังหวัดจะมีรถไฟท้องถิ่นที่เป็นเอกชนของตัวเองอยู่ บางสายก็มีมาร้อยกว่าปีเพราะญี่ปุ่นให้เสรีในกิจการรถไฟมาตลอดตั้งแต่สมัยนั้น
   ในสมัยก่อนนั้นรถไฟทางหลักระหว่างเมืองที่เป็นของรัฐบาลนั้นส่วนใหญ่ยังไม่มีการติดไฟฟ้า แต่รถไฟท้องถิ่นต่างจังหวัดที่ระยะทางสั้นๆ ก็ติดไฟฟ้าไปตั้งแต่เริ่มให้บริการ กลายเป็นว่าในสมัยก่อนนั้นรถไฟเอกชนนั้นมีความทันสมัยมากกว่ารถไฟรัฐบาลเสียอีก รถไฟเอกชนที่ติดไฟฟ้าตั้งแต่แรกๆ ท่านสามารถสังเกตได้เพราะจะชอบใช้ชื่อเรียกว่า Dentetsu (電鉄) ซึ่งแปลตรงๆ ว่ารถไฟฟ้า 
   เดิมทีแล้วรถไฟท้องถิ่นก็มีรถไฟรุ่นเฉพาะของตัวเองอยู่ แต่เนื่องจากเศรษฐกิจที่หดตัวลงตั้งแต่ช่วง 1980s หลายๆ เส้นทางรถไฟท้องถิ่นก็ค่อยๆ ทยอยหายไป แต่บางเส้นทางที่ยังคงให้บริการอยู่ก็เริ่มจำเป็นต้องซื้อรถใหม่เพื่อทดแทนรถเก่าๆ ที่ใช้มาเกือบ 60 ปี แต่เมื่อสภาพเศรษฐกิจไม่ได้คล่องตัวมากนัก การซื้อรถไฟมือสองที่เริ่มปลดระวางจากบริษัทใหญ่ๆ ในกรุงโตเกียว (หรือหัวเมืองอื่นๆ) ก็เป็นทางเลือกถัดมา

Ichibata Railway ในจังหวัด Shimane ซึ่งก็เคยมีรถไฟฟ้ารุ่นแรกเป็นของตัวเอง
จากนั้นได้ทยอยมาใช้รถไฟมือสองเช่น Keio Series 5000 หรือ Tokyu Series 1000

ลองมาดูตัวอย่างเด่นๆ กันบ้างครับ

   Kumamoto Electric Railway ที่มีรถไฟ Kumamon น่ารักๆ นั้น จริงๆ แล้วส่วนใหญ่เป็นรถไฟมือสองจากรถไฟฟ้าใต้ดินในโตเกียว อย่างเช่น Tokyo Metro Ginza line, Hibiya line ทางรถไฟสายนี้ก็มีประวัติยาวนานร้อยกว่าปี เสาไฟฟ้าบางต้นนั้นยังเป็นเสาไม้อยู่เลย

Kumamoto Electric Railway Series 01

Tokyo Metro Series 01 สมัยที่ยังบริการอยู่ในโตเกียว (ที่สถานีชิบูยะ ปี 2016)

   ทั้งนี้ Ginza line เป็นรถไฟที่ใช้รับไฟฟ้าจากรางสาม และรางวิ่งกว้าง 1435 mm แต่ Kumamoto railway ใช้ไฟฟ้าจากเหนือหัวและใช้ราง 1067 mm รวมถึงตู้โดยสารหัวท้าย 2 ตู้ที่ต้องการนั้นไม่มีมอเตอร์ขับ ทำให้การนำรถ Ginza line มาวิ่งที่ Kumamoto railway นั้นต้องมีการดัดแปลงกันยกใหญ่

ทำไมถึงเลือกรถมือสอง?

   อย่างที่กล่าวไว้ รถไฟท้องถิ่นสายเล็กๆ ที่ไม่ได้มีกิจการคล่องตัวก็ไม่สามารถซื้อรถไฟมือหนึ่งได้ตลอด อีกประเด็นที่น่าสนใจคือการผลิตรถไฟแต่ละครั้งจะต้องมีการออกแบบรถไฟเฉพาะของแต่ละสาย  (ให้รถไฟนั้นมีขนาดที่เข้ากับแต่ละเส้นทางได้ ซึ่งบางทีมี spec หรือข้อจำกัดเฉพาะของตัวเอง) ซึ่งรถไฟท้องถิ่นสายเล็กๆ ที่ไม่ได้มีความต้องการตู้รถไฟจำนวนมาก เวลาสั่งซื้อน้อยๆ อาจจะทำให้ไม่คุ้มทุนมากกว่า mass production เหมือนรถไฟฟ้าในเมืองใหญ่
   นอกจากนี้ บริษัทรถไฟใหญ่ที่จำหน่ายรถไฟมือสองออกไปได้ ก็จะได้รายได้จากส่วนนี้เข้ามาหักลบกับรายจ่ายที่ใช้ซื้อรถไฟรุ่นใหม่ ไม่ใช่แค่บริษัทรถไฟท้องถิ่นที่ประหยัดเงินได้ บริษัทรถไฟในเมืองใหญ่ก็ประหยัดได้ win-win ทั้งสองผ่าย

   แล้วบริษัทรถไฟในเมืองใหญ่ที่โละทิ้งรถไฟรุ่นเก่าออก ไม่ได้หมายความว่ารถไฟรุ่นเก่านั้นหมดสภาพไปแล้วหรือ คำตอบคือไม่ แต่รถไฟในเมืองใหญ่มีชั่วโมงและภาระ (load) ในการวิ่งที่หนัก เช่นวิ่งด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. ทั้งวันทั้งคืน ไปถึงอายุหนึ่งเริ่มมีค่าซ่อมบำรุงสูงขึ้น อาจจะไม่คุ้มค่า แต่เมื่อไปรถไฟท้องถิ่นต่างจังหวัดแล้วอาจจะวิ่งแค่ 40-50 กม./ชม. วันละไม่กี่เที่ยว ภาระเบาลงหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

"เกมพลิก... และเกมพลิก ?"

   ในปี 2023 Seibu Railway ซึ่งเป็นรถไฟเอกชนรายใหญ่ครอบคลุมเขตโตเกียวและไซตามะ ได้ประกาศกว้านซื้อรถไฟมือสองจากบริษัทอื่นๆ รวมเกือบ 100 ตู้ โดยรถไฟที่จะซื้อนั้นเป็นรุ่นที่มี Inverter ที่เป็นระบบขับเคลื่อนประหยัดพลังงาน เพื่อเอามาเปลี่ยนกับรถไฟรุ่นเก่า โดยรถไฟรุ่นที่มี Inverter คือ Tokyu series 9000 (ผลิตปี 1990 - 5 ตู้/ขบวน) และ Odakyu series 8000 (ผลิตปี 1988 - 4 หรือ 6 ตู้/ขบวน)

รถไฟรุ่น 2000 รุ่นเก่าของ Seibu Railway (ผลิตตั้งแต่ 1978)

   Seibu Railway มีการซื้อรถไฟรุ่นใหม่อยู่เรื่อยๆ ทำให้ไม่มีคนคิดว่าอยู่ดีๆ จะกว้านซื้อรถไฟมือสองจาก
บริษัทรถไฟเอกชนรายใหญ่ด้วยกันเองในโตเกียว และเป็นจำนวนมาก

Odakyu Series 8000 ที่ถูกโอนถ่ายไปยัง Seibu Railway
https://trafficnews.jp/post/135185

   และอีกเกมที่พลิกคือ ช่วงหลังๆ กลับกลายเป็นว่ารถไฟท้องถิ่นที่เราได้กล่าวไปเมื่อสักครู่ เริ่มกลับมาลงทุนซื้อรถไฟมือหนึ่งอีกครั้ง อย่างเช่น Ichibata Railway ก็ซื้อรถไฟรุ่น 7000 ซึ่งผลิตใหม่ทั้งตู้เมื่อปี 2016

Ichibata Railway series 7000

Iyo Railway ในจังหวัด Ehime และ Kotoden Railway ในจังหวัด Kagawa ซึ่งอยู่ในเกาะ Shikoku ทั้งคู่ก็ทยอยประกาศซื้อรถไฟผลิตใหม่ อย่างละประมาณ 20 ตู้ 

รถไฟใหม่ที่ Iyo Railway จะซื้อจาก Kinki Sharyo
https://www.kinkisharyo.co.jp/news/detail.php?seq=311

สาเหตุใดที่ "เกมพลิก" ...

   สภาพเศรษฐกิจของรถไฟท้องถิ่นก็ไม่ได้ดีขึ้นมากนัก แต่อาจได้รับเงินช่วยเหลือจากเทศบาลท้องถิ่น เพื่อเป็นการสนับสนุนให้คนท้องถิ่นหันมาใช้การขนส่งสาธารณะมากขึ้น หรือถ้าในเมืองท่องเที่ยวก็เป็นการสนับสนุนเพื่อรองรับการท่องเที่ยวไปในตัวด้วย เป็นสิ่งที่ดีที่บางท้องถิ่นพยายามลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น
   อีกเกมหนึ่งที่ช่วยได้คือ ต้นทุนการผลิตรถไฟลดลง จากที่ต้องมีการออกแบบรถไฟเฉพาะของแต่ละสาย บริษัทรถไฟก็ได้พยายามดีไซน์รถไฟที่เป็นแบบพื้นฐาน (based-model) และใช้อะไหล่หรืออุปกรณ์ร่วมกัน (common parts) มากขึ้น การออกแบบให้ลดต้นทุนก็เป็นผลดีต่อทั้งผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้ซ่อมบำรุงด้วย อย่าง Ichibata Railway series 7000 ที่กล่าวไว้ข้างต้นเป็นการเอา based-body ของ JR Shikoku series 7000 รวมถึงเครื่องไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมมา customize เล็กน้อย


   แต่ทำไมรถไฟเอกชนรายใหญ่ในโตเกียวถึงออกมาสวนกระแสแบบนี้???
Seibu Railway ก็ยังทยอยสั่งซื้อรถไฟมือหนึ่งเรื่อยๆ ตามแผนเดิม แต่สั่งซื้อเฉพาะรถไฟยาว 8/10 ตู้ที่ให้บริการในสายหลัก ส่วนสายย่อยนั้นก็ได้เปลี่ยนแผนนำรถมือสองที่มีความยาว 4-6 ตู้มาให้บริการ อาจเป็นการลดค่าออกแบบรถไฟรุ่น 4-6 ตู้ก็เป็นได้ แต่ก็มีบางกระแสที่กล่าวว่า Seibu Railway เริ่มมีปัญหากับการบริหารโดยภาพรวม ไม่ใช่แค่ด้านรถไฟ แต่เป็นด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเคยมีประเด็นว่าจะขายห้างสรรพสินค้า Seibu Ikebukuro ให้กับบริษัทอื่น ฯลฯ 

   ก็เป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการหมุนเวียนรถไฟ ที่จริงๆ แล้วรถไฟมือสองก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกันทั่วโลก เหมือนกับยานพาหนะอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ใช้กับบุคคลส่วนตัว หรือยานพาหนะที่เป็นขนส่งสาธารณะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น