สวัสดีผู้อ่านเช่นเคยครับ
วันนี้ได้มีโอกาสกลับมาอัพเดตแหล่งท่องเที่ยวในย่าน Tokyo Skytree / Asakusa กันเล็กน้อยในรอบ 4 ปีครับ
บทความที่ผ่านๆ มา
ตอนที่ 6.1 : ซากุระบานเร็ว ในรอบๆ โตเกียว
ตอนที่ 1.1 : พาขึ้นไปชม Tokyo Skytree
ตอนที่ 1.2 : วัดอาสะกุสะหลังอาทิตย์ตกดิน Asakusa (Sensoji temple) after sunset
ทั้งนี้ Tokyo Skytree ที่เปิดให้บริการในปี 2012 นั้นก็ครบ 10 ปีเป็นที่เรียบร้อยครับ ตอนที่ผมมาญี่ปุ่นใหม่ๆ ในปี 2013 ตอนนั้นนับว่าเป็นอะไรที่ใหม่มาก ทุกอย่างดูวิ๊งๆ เงาวับ วันนี้ก็แอบตกใจเหมือนกันว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วจริงๆ
ก่อนอื่น ในโพสต์เมื่อ 4 ปีก่อน ผมบอกว่าให้ขึ้นสกายทรีในตอนประมาณ 9 โมงเช้าวันธรรมดา เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่พลุกพล่านเลยนั้น ตอนนี้น่าเสียดายว่าสกายทรีได้ปรับเวลาเปิดขึ้นตึกเป็น 10:00 ครับ
(แต่วันธรรมดาก็น่าจะยังเป็นโอกาสที่ดี)
ส่วนวันนี้ จะมาแนะนำสิ่งที่อัพเดตกันเล็กน้อยครับ
1. สะพานข้ามแม่น้ำสุมิดะ เลียบทางรถไฟ Tobu
แต่เมื่อปี 2019 โทบุได้ทำการก่อสร้างสะพานคนเดินเลียบสะพานรถไฟที่มีอยู่ และทำทางเดินต่อไปให้ถึงโตเกียวสกายทรีได้ง่ายขึ้น ทางนี้มีชื่อเรียกว่า Sumida River Walk
และที่ผมกล่าวว่าเลียบสะพานรถไฟเดิมนั้นก็คือเลียบสะพานรถไฟเดิมไปเลยครับ บางทีเราก็จะได้เห็นรถไฟสายโทบุวิ่งอยู่ข้างๆ เรา ข้ามแม่น้ำสุมิดะไปพร้อมกันช้าๆ ส่วนตัวสะพานรถไฟนี้นั้นก็เป็นสะพานที่สร้างมาพร้อมกับสถานีรถไฟ Asakusa ของทางรถไฟสาย Tobu line ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1931 (2474)
และที่ผมกล่าวว่าเลียบสะพานรถไฟเดิมนั้นก็คือเลียบสะพานรถไฟเดิมไปเลยครับ บางทีเราก็จะได้เห็นรถไฟสายโทบุวิ่งอยู่ข้างๆ เรา ข้ามแม่น้ำสุมิดะไปพร้อมกันช้าๆ ส่วนตัวสะพานรถไฟนี้นั้นก็เป็นสะพานที่สร้างมาพร้อมกับสถานีรถไฟ Asakusa ของทางรถไฟสาย Tobu line ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1931 (2474)
ผู้เขียนได้มีโอกาสไปตอนแรกตอนกลางคืน เลยมีเพียงแต่รูปตอนกลางคืนครับ
วิวจากบนสะพานคนเดิน
กับอีกสถานที่หนึ่งที่ผมลืมแนะนำไปก็คือ Sumida Aquarium ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซึ่งอยู่ชั้น 4 ของอาคารสกายทรีครับ ที่นี่ก็เป็นอีกทางเลือกแก้ขัดเผื่อวันที่ฝนตกที่คิดว่าน่าจะไม่ได้เพลิดเพลินกับการชมวิวบนหอคอย (หรือแน่นอน ถ้ามีเวลาเที่ยวได้ทั้งวันก็ควบไปทั้งหอคอยทั้งอควาเรี่ยมไปเลย)
อควาเรี่ยมในโตเกียวสกายทรีนี้ไม่ได้เป็นอควาเรียมขนาดใหญ่ครับ แต่จะมีการเล่นแสง (lighting) ทำให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจครับ
นอกจากนี้ยังมีเพนกวิ้น ปลาไหลมุดทรายให้ชมกันครับ (ไม่รู้เหมือนกันภาษาไทยอังกฤษ (Spotted Garden Eel) เรียกอะไร ตัวที่มันยาวๆ มุดทรายอ่ะนะ ภาษาญี่ปุ่นเรียก チンアナゴ ) น้องโผล่มาประมาณ 10-15 cm แต่ว่ากันว่าตัวน้องจริงๆ ยาวเกือบ 50-60 cm เลยทีเดียว
สุดท้ายก่อนออกจะเป็นโซนปลาทองซึ่งมีความผูกพันกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมานาน ปัจจุบันนี้ในการละเล่นงานวัดก็ยังมีการเล่นช้อนปลาทองเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น